ReadyPlanet.com


" สุภาพบุรุษไฟแช็ก "


      สวัสดีครับ พรุ่งนี้วันมหาสงกรานต์ ปีใหม่ไทยแล้ว ขออวยพรให้ชาวซิปโป้คลับไทยแลนด์ทุกท่านมีความสุข สมความปรารถนาคิดถึงซิปโป้ตัวใด ให้ได้ซิปโป้ตัวนั้น สุโขสโมสรกันถ้วนหน้าในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทยครับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน / ปอง

      สุภาพบุรุษไฟแช็ก
      เขียนโดย จำลอง ฝั่งชลจิตร ใน ลลนา/๒๕๒๙
 
ข้าพเจ้าเดินตามหลังสุภาพบุรุษบอบบางคนหนึ่งเข้าไปในห้องอาหาร
       (ท่านผู้อ่านที่เคารพ ข้าพเจ้าพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ห้องอาหารเป็นฉากในเรื่องสั้น เนื่องจากข้าพเจ้ามิใช่นักเก็บรายละเอียดชั้นดี เครื่องตกแต่งร้านที่พรั่งพร้อม บรรยากาศอันซับซ้อน ตลอดจนเสื้อผ้าของผู้คนที่นั่งรับประทานอาหารตามโต๊ะต่างๆ จะถูกมองข้ามไปสิ้น ยิ่งห้องอาหารที่หรูหรา สนนราคากาแฟถ้วยละยี่สิบถึงห้าสิบบาท ยิ่งมีรายละเอียดยุบยับหยุมหยิมและซับซ้อนหนักข้อเข้าไปอีก นี่เป็นข้อเสี่ยงอย่างยิ่งสำหรับนักเขียนตาตื้น ซ้ำยังมัวซัวด้านมัณฑนศิลป์ ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ยังมิอาจละเว้นได้ จึงใคร่ขอความกรุณาตั้งสติคาดหวังแต่พอเหมาะ อย่าหวังความเร้าอารมณ์จนเกิดความสนเท่ห์ ความพิสดาร ความตื่นตาตื่นใจ ความเบิกบานบันเทิง หรือปัญญาจากตัวอักษรของข้าาพเจ้าเลย)
       บริกรหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยผายมือให้เขาเข้าไปข้างใน ก่อนหันมาทักถามข้าพเจ้า
       "กี่ที่ครับ?"
       "ที่เดียว" ข้าพเจ้าตอบ เดินไปเผยอก้นนั่งบนเก้าอี้หมุนหน้าเคาน์เตอร์บาร์
       (ท่านผู้อ่านที่รัก ข้าพเจ้าจะเริ่มพรรณนาอย่างไรดีกันเล่า ภายใต้สายตาของตัวละครนาม "ข้าพเจ้า" มันพริ้งเพริศเลิศหรูเหลือหลาย ไหนจะนาฬิกาเรือนเก่าๆ นับไม่ถ้วน ไหนจะภาพถ่ายบุร่ำเบาราญสีซีเปียในฉากที่แขวนไว้กับฝาผนัง โคมไฟอันห้อยย้อยเหนือโต๊ะอาหาร ข้าพเจ้าทดลองเขียนดังนี้...โต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหารมีประมาณยี่สิบตัวไม่รู้ทำด้วยไม้อะไรบ้าง แสงสีครึ้มร้อนครึ้มหนาวฉายให้เห็นควันบุหรี่คละคลุ้ง ดวงหน้าหลายดวงลอยอยู่ตามมุมสลัวๆ มันออกจะดึกมากแล้ว...พอใช้ได้ไหมครับ?)
       เขานั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหลัง เยื้องมาทางขวามือของข้าพเจ้า บริกรวางเหยือกเบียร์ที่บรรจงรินเกือบปริ่มแก้วลงบนกระดาษแผ่นบางๆ ที่ปูไว้เบื้องหน้าของเขา เขาเป็นสุภาพบุรุษรูปงามพอตัว ใบหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลา แต่งตัวดี
       "ดื่มอะไรดีครับ?" ข้าพเจ้าหมุนตัวกลับมาตามเสียงถามของบริกรที่บาร์
       (ข้าพเจ้าออกจะโชคดีนะครับ เพราะห้องอาหารแห่งนี้มีกาแฟให้เรียกดื่มเพียงอย่างเดียว ถ้าเป็นบางที่จะยุ่งยากน่าดู ตัวละครของข้าพเจ้าต้องสั่งกาแฟโดยระบุชื่อสกุลบราซิล โบลิเวีย เยอรมันหรืออเมริกาตามท้ายไปด้วย โชคดีจริงๆ มิฉะนั้นแล้วตัวละครนาม "ข้าพเจ้า" จะต้องสำแดงความไร้รสนิยมออกมาแน่นอน ตามกติกาของการดื่มกาแฟในที่หรูๆ เป็นเรื่องน่าละอายมากถ้าบอกชื่อกาแฟร้อนเฉยๆ ข้าพเจ้าเห็นจะต้องขอบคุณสป็อตโฆษณาบรั่นดียี่ห้อหนึ่ง ที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์เพื่อยกระดับรสนิยมแก่คนไทยโดยทั่วกัน สป็อตโฆษณาชิ้นนั้นย้ำเตือนให้ตระหนักว่า ผู้สูงส่งด้วยรสนิยมจะเรียกดื่มบรั่นดีโดยระบุสกุลตามท้ายเสมอ ตัวละครของข้าพเจ้าจึงไม่ทำอะไรเปิ่นๆ จนเป็นที่ระคายสายตาของโต๊ะข้างๆ)
       บริกรวางถ้วยกาแฟ จอกนมขนาดจิ๋ม กับตัวเป็ดที่ข้างในบรรจุก้อนน้ำตาล ข้าพเจ้าชงกาแฟให้ตัวเองโดยไม่แตะต้องจอกนม ค่อยๆ จิบกาแฟร้อนฉ่า (กาแฟดีมักร้อนเก่าดั่งมหานรก ดำประดุจศอพระศิวะ นักการฑูตฝรั่งเศสกล่าวเช่นนั้น) เหลือบเห็นเขาวางเหยือกเบียร์ช้าๆ หลังละเลียดดื่ม เขากระดกซองบุหรี่ออกจากซอง (ถ้าให้ทันสมัย ข้าพเจ้าควรระบุยี่ห้อฝรั่งเสียด้วย จะหนุนตัวละครให้มีระดับขึ้น) หล่นมือลงเคล้นไฟแช็กจากกระเป๋ากางเกงแล้วเปลือยมันออกจากซองหนัง เขาแตะมันเพียงแชะเดียวเท่านั้น เปลวไฟสีเหลืองแกมฟ้าพุ่งโพลงขึ้นลนบุหรี่ที่คาบเอาไว้ เชาสูดเบาๆ ระบายควันช้าๆ ดูสวย เท่และสง่างามเสียเหลือเกิน
       ข้าพเจ้าวางถ้วยกาแฟ เสียงแซ็กโซโฟนพรูพร่างมาจากลำโพงด้วยท่วงทำนองของแจ๊ซอันอึกทึกครื้นเครง เป็นแจ๊ซที่ข้าพเจ้าคุ้นเคยถึงขึ้นโปรด (ข้าพเจ้าจะไม่ชี้ชัดว่าเป็นแจ๊ซของใคร เพราะรู้สึกว่าจะบ่งบอกรสนิยมของตัวละครนาม "ข้าพเจ้า" ชัดเกินไป ซ้ำยังเปิดจุดอ่อนให้นักวิเคราะห์วิจารณ์ยกไปพิจารณา แล้วลามปามมาถึงรสนิยมของข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้เขียนอีกทอด) ข้าพเจ้าเพิ่งเห็นว่าโต๊ะข้างๆ เขา สุภาพสตรีคนหนึ่งนั่งจิบเบียร์ โรยอารมณ์เยือกเย็นของเธอตามสบาย สายตาหลายคู่จ่องเธอ เธอหันหลังให้ข้าพเจ้า จึงเห็นแต่ท้ายทอยที่ผมดัดฟู ก้มต่ำหน่อยจะเห็นกางเกงบลูยีนที่เธอสวม (ข้อนี้เป็นการดีสำหรับนักเขียน ข้าพเจ้าเขียนให้สุภาพสตรีคนนั้นนั่งหันหลังจะสะดวกกว่า การบรรยายบุคลิกของเธอง่ายดี ไม่ต้องเขียนคิ้วเขียนหน้า) เขาก็แอบชำเลืองมองเธอเช่นเดียวกับคนอื่น เธอจิบเบียร์อีกครั้ง เนิบเนียนเชื่องช้า บนข้อมือที่ลดเหยือกเบียร์ลง งูเงินหลายตัววิ่งวนรอบข้อมือเล็กๆ มันงามและทันสมัยร้อนๆ เช่นปัจจุบัน เธอทอดถอนใจก่อนเอนหลังพิงเก้าอี้รุนแรงหลายครั้ง เหมือนรอใครสักคน (ข้าพเจ้าควรจะขีดเส้นใต้มันเสียเลย จะได้ทราบว่าช่วงนี้สำคัญแล้วนะ อย่างสมัยเรียนประถม คุณครูมักจะบอกให้ขีดเส้นใต้ตรงที่สำคัญๆ ทุกที) เธอล้วงบุหรี่ซองแดงจากกระเป๋าเสื้อ เขาเหลือบมองไฟแช็กบนซองบุหรี่ของตัว เขาครุ่นคิดและคงคิดไม่ต่างจากข้าพเจ้า เกี่ยวกับวัฒนธรรมการใช้ไฟแช็กในสังคมอันศิวิไลซ์ เธอคาบบุหรี่นิ่งงันอยู่ชั่วขณะ กวาดสายตาไปรอบๆ เขาคว้าไฟแช็กโน้มร่างมาทางเธอ
       เรื่องของโชคมักมาและไปอย่างคาดหมายไม่ถูกเสมอ แค่แตะไฟแช็กสองครั้งแล้วไม่มีเปลวไฟ เขาร้อนผ่าวตามลำคอ ใบหน้าแดงคล้ำจนเห็นได้ชัด โอกาสของเขาผลุดผล็อยไปต่อหน้าต่อตา
       ร่างหนึ่งพร้อมไฟแช็กคู่กายเคลื่อนวูบผ่านข้าพเจ้าไป
       "ขอบคุณค่ะ" เธอกล่าวกับสุภาพบุรุษไฟแช็กคนใหม่ ขณะที่เขารีบร้อนเช็กบิลเพราะไฟแช็กทำพิษ แล้วจะทนนั่งอยู่ต่อหน้าเธอได้อย่างไร เขาเดินลิ่วออกไป ด้วยความซาบซึ้งในกติกาของการใช้ไฟแช็กในสังคมทันสมัย
       ข้าพเจ้ายินสองคนสนทนากัน เสียงสรวลค่อยๆ ถี่ขึ้นตามลำดับ คงลงร่องอารมณ์กันไม่ยาก สุภาพบุรุษไฟแช็กเป็นคนหนุ่ม ดูรุ่มร่าม สง่าง่ายๆ มีความเถื่อนอยู่ในดวงหน้า ท่าทางสุภาพ ข้าพเจ้าเห็นเขายิ้มบ่อยๆ พูดช้าแต่ชัดถ้อย มีไฟแช็กดีอย่างนี้เอง
 สองคนอุ่นอารมณ์รื่นเริงแก่กัน บางคำพูดที่ชาญฉลาดหลุดออกมา เป็นประโยคคุ้นๆ จากภาพยนตร์ จากเพื่อนฝูง จากคนเบื่อโลก เป็นบทพูดที่เก่าแก่หาตัวคนเขียนบทไม่ได้ จนพาลคิดว่าเป็นบทพูดของตนเอง เป็นต้นว่า...สังคมมันหลอกลวง...ทุกคนต่างใส่หน้ากากเข้าหากัน (ข้าพเจ้าคิดว่าตัวละครของข้าพเจ้าไม่ควรได้ยินอะไรเสียทั้งหมดหรอก เพราะจะเป็นอุปสรรคแก่การพรรณนา อีกทั้งยังส่งผลต่อความสั้นความยาวของเรื่องสั้นเสียด้วยสิ)ข้าพเจ้าสั่งกาแฟอีกถ้วย ไม่ทันใส่น้ำตาล สองคนนั้นจ่ายเงิน แล้วชวนกันออกไป
       "ไปเสียแล้ว" ข้าพเจ้าเปรยกับบริกรหนุ่มน้อย
       "คงไปต่อกันที่อื่น" เขาตอบกลั้วหัวเราะในลำคอ ข้าพเจ้าคิดว่าเขามองโลกในแง่ร้ายเกินไป
       "คงไปหาข้าวกิน"
       "ดึกแล้ว"
       ข้าพเจ้าเห็นสุภาพบุรุษหลายคนทอดหุ่ยอยู่ตามหลายโต๊ะ มีไฟแช็กวางคู่กับซองบุหรี่ (หรือซุกอยู่ในกระเป๋า) ห้องอาหารหรูหรากลางเมืองหลวง...หญิงสาวที่รู้วัฒนธรรมการใช้ไฟแช็กปรุโปร่ง...น่าขบคิด...น่าเชื่อเท่ากับไม่น่าเชื่อ ข้าพเจ้ามิอาจคิดร้ายเหมือนบริกรหนุ่มน้อย จ่ายค่ากาแฟเรียบร้อยทั้งที่จิบไปแค่อึกเดียว เพราะถึงดื่มต่อไปก็คงไม่สนุกแล้ว
       (ท่านผู้อ่านที่รัก ถ้าข้าพเจ้านำเรื่องที่ตัวละครนาม "ข้าพเจ้า" พบเห็นไปเล่าให้ผู้ใหญ่บ้านที่บ้านนอกฟัง ค่าที่แกเป็นคนทันสมัยกว่าคนอื่นๆ อีกหลายคนในหมู่บ้านของข้าพเจ้า แกจะคิดอย่างไรกับกรณีนี้ แกคงถามข้าพเจ้าทำนองว่า เปลวไฟวูบเดียวกับไม้ขีดตราพญานาคหนึ่งก้าน ค่าอะไรมันจะสูงกว่ากัน      ข้าพเจ้าคงตอบยากเหมือนกับตัวละคนของข้าพเจ้ากำลังเป็น)
        ข้าพเจ้ายืนชาอยู่หน้าห้องอาหาร ลมดึกโชยมาจากฟ้า ข้าพเจ้าขอเวลาโยงใยความเกี่ยวกันระหว่างรสนิยมกับวัฒนธรรมสักนิด ก่อนตัดสินใจเรียกแท็กซี่กลับบ้าน

   .................................

เรื่องสั้นเรื่องนี้เกี่ยวกับ "คน" "รสนิยม"และ "ไฟแช็ก" น่ะครับ อ่านกันสนุกๆ Happy New Thai Day 2007 ครับผม.



ผู้ตั้งกระทู้ maepongism / ๐๓๔ :: วันที่ลงประกาศ 2007-04-12 16:32:11 IP : 58.10.158.243


ก่อนหน้า1ถัดไป

ความคิดเห็นที่ 1 (908079)

      มีผู้ใหญ่บางท่านบอกมาว่า ช่องใส่สตางค์ในกางเกงยีนส์ Levi"s ออกแบบมาสำหรับใส่ไฟแช็กซิปโป้โดยเฉพาะ (หากไม่สนิทใจนัก ลองใส่ดูก็ได้นะครับ...ผมลองมาแล้ว และคิดว่าทำออกมาเพื่อใส่ซิปโป้โดยตรงเลย) แต่ยีนส์ยี่ห้ออื่นๆ อันนี้ไม่แน่ใจครับ ผู้ใหญ่การันตีมาว่า Levi"s อย่างเดียว...

      อวยพรเผื่อล่วงหน้าละกันครับ ขอให้มีสุข (ร่วมเสพ) มากๆ ไม่เฉพาะวันมหาสงกรานต์ หรือวันผู้สูงอายุแห่งชาติ (๑๓) วันเดียวขอให้มีความสุขไปตลอดทั้งวัน ครอบครัว (๑๔ เมษายน) วันขึ้นปีใหม่ไทย (๑๕ เมษายน) ตลอดจนถึงปีหน้าเลยนะครับ ...ทุกท่าน

         "อยากบอกให้รู้ความดียังมีอยู่ วางจิตรับรู้เข้าใจด้วยเหตุผล ดื่มดับกระหายสายน้ำของทุกผู้คน หยุดความสับสนเลือกหนทางเดิน  สรรพสิ่งจริงแท้มั่นคงดำรงอยู่ ปัญญาความรู้เท่าทันความเศร้าหมอง ดื่มเถิดเพื่อนพ้อง สายน้ำของการแบ่งปัน ร่วมกันสร้างฝันบนฐานความจริง...โลกใหญ่ใบนี้ไม่มีใครครอบครอง ไม่แบ่งเป็นสองเพ่งมองดูแม่น้ำ.." (ลำธาร)

ผู้แสดงความคิดเห็น maepongism / ๐๓๔ วันที่ตอบ 2007-04-12 18:09:40 IP : 58.10.158.106


ความคิดเห็นที่ 2 (911025)
ฟังเพลงของมาโนชด้วยหรือครับ............?
ผู้แสดงความคิดเห็น n 163 วันที่ตอบ 2007-04-15 18:29:39 IP : 196.205.204.124


ความคิดเห็นที่ 3 (913843)
ชอบ ไตรภาคน่ะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น appaloosa วันที่ตอบ 2007-04-18 11:53:27 IP : 222.123.101.115


ความคิดเห็นที่ 4 (913956)

     ครับ ฟังเพลงของมาโนช พุฒตาล นานแล้วครับ ปี 2536 ชุดไตรภาค : ดิ โอฬาร โปรเจ็ค, เดอะ เรน และมาโนช พุฒตาล (เพลงไกล .. 21 นาที)

     2539 ในทรรศนะของข้าพเจ้า ตอนออกใหม่ๆ เคยมีเทป แต่ก็สูญหายไปตามกาลเวลาและมือเพื่อนที่หยิบยืมไป นี่ก็เพิ่งซื้อไม่นาน อัลบั้มนี้ชอบมากครับ

     2549 มาโนช พุฒตาล - ชีวิตที่เจ็บปวดของคนป่วย เป็นซิงเกิ้ล (เพลงเดียว) แต่ได้รางวัลเพลงยอดเยี่ยมประจำปีที่แล้ว รางวัลสีสันอวอร์ด, คมชัดลึกอวอร์ด ดีครับ สรุปก็คือชอบครับ มาโนช พุฒตาล ทั้งเนื้อเพลงในเชิงตั้งคำถามกับสิ่งรอบๆ ตัว ศาสนา สังคม ฯลฯ และก็ชอบแนวดนตรีของเขาด้วยน่ะครับ เป็นโปรแกรสซีฟร็อค สไตล์ Pink Floyd

   ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น maepongism / ๐๓๔ วันที่ตอบ 2007-04-18 13:19:22 IP : 58.10.158.59



ก่อนหน้า1ถัดไป


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.