สวัสดีครับทุกท่าน
ในที่สุดก็มาถึงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ตอนจบของเรื่องราวทั้งหมดเสียที หลังจากที่ยืดเยื้อมาพอสมควร
มาถึงตอนนี้ต้องขอบอกว่า
ยินดีที่ได้รู้จักทุก ๆ ท่านครับ
...............................................................................
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตการงานของผม มีเรื่องมากมายนับไม่ถ้วนที่ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบเด็ดขาดและรวดเร็ว
ที่สำคัญ จะต้องไม่เกิดผลเสียหายตามมา
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าผมจะใช้เวลาพิจารณาไตร่ตรองนานเสียเหลือเกิน
ทั้งนี้ก็เพราะมีเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึกเข้ามาเป็นปัจจัยด้วย ถ้าใช้สมองคิดอย่างเดียวก็คงจะง่ายขึ้นกว่านี้
สาเหตุหนึ่งที่ตัดสินใจยากก็เพราะผมรู้สึกสนุกที่ได้ซื้อ zippo จากร้านนี้
หลายท่านคงสงสัยเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้
มันน่าสนุกตรงไหน ?
ความสนุกของผมอยู่ที่ zippo แต่ละตัว แต่ละสี แต่ละแบบในร้านนี้ จะมีแค่ 1ตัวเท่านั้น
ถ้าขายตัวนี้ไปแล้วก็หมายความว่าหมด
ถ้าเกิดชอบใจตัวนี้ แต่ยังไม่ซื้อเดี๋ยวนี้ อีก 2-3 วัน กลับมาซื้อใหม่ ถ้ามีคนมาซื้อไปแล้วก็เป็นอันจบ
จะให้ทางร้านหามาให้อีกก็ไม่ได้ เพราะร้านเขาก็รับมาขายแบบนี้เหมือนกัน
ทางร้านเองยังไม่รู้เลยว่าของแต่ละล็อต จะมีอะไร จำนวนมากหรือน้อยเท่าไหร่ เพราะของที่ขายในร้านส่วนใหญ่เป็นของที่ "หิ้ว"เข้ามา
เจ้าของร้านเล่าว่าบางล๊อตไปซื้อไม่ทัน ร้านค้าเจ้าอื่นก็เลือกของสวย ๆ ไปหมด อย่างนี้ก็มีบ่อย ๆ
ถ้าอยากได้ของดี ของสวยก็ต้องขยันติดตามเอาเอง
ด้วยเหตุนี้เองที่ผมรู้สึกสนุกกับการซื้อ zippoที่ร้านนี้มากกว่าการไปยืนเลือกจากตู้โชว์ตามห้าง
......................................
จนแล้วจนรอดผมก็ยังลังเล ตัดสินใจไม่ได้ซักที
ช่วงนี้เองที่ผมห่างหายไปจากร้านนี้ รวมเวลาแล้วเกือบเดือน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมอยากจะทดสอบจิตใจของตัวเองดูว่าถ้าเจอ zippo ตัวงาม ๆ อีก จะหยุดซื้อได้มั้ย
ระหว่างทางนั้นเอง ความคิดผมก็แตกแยกเป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายหนึ่งบอกว่า กลับดีกว่า ไปถึงร้านเดี๋ยวก็อดใจไม่ได้ จะยืดเยื้อไปอีก
อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า เดินมาจะถึงร้านอยู่แล้ว ก็ลองเข้าไปดูให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
จนกระทั่งผมมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านนั่นแหละ ความคิดผมก็กลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง
ร้านที่ผมเคยแวะเวียนมาเป็นเวลานาน บัดนี้ กลายเป็นร้านขายเสื้อผ้าผู้หญิงไปซะแล้ว
ผมหันมองย้อนกลับไปเผื่อว่าผมจะเดินเลยร้านมาหรือเปล่า ก็ไม่ใช่
ร้านข้างเคียงที่อยู่ติดกันทั้งซ้ายและขวาก็ยังอยู่ครบถ้วนดี
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นละนี่
ผมเข้าไปสอบถามร้านข้าง ๆ ก็ได้รับรู้ว่า ร้านนี้ได้ย้ายไปแล้วเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เนื่องจากหมดสัญญาเช่า และเจ้าของตึกต้องการให้ญาติมาเช่าแทน ก็เลยไม่ต่อสัญญากับผู้เช่าเดิม
ส่วนเรื่องจะไปเช่าเปิดร้านอยู่ที่ไหนเขาก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ในที่สุดก็มีคนมาช่วยตัดสินใจให้ผมแล้ว เรื่องที่เคยยากลำบากใจหายไปในพริบตา
หลังจากที่ร้านปิดไปแล้วผมก็ไม่ได้ติดตามสืบเสาะค้นหาว่าไปเปิดที่ใด
แต่ก็รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นการจากไปอย่างปุบปับกระทันหัน
ถ้ารู้ล่วงหน้าซักหน่อยคงจะดีกว่านี้ อาจจะมีการเหมา zippo ล๊อตสุดท้ายเพื่อเป็นการอำลา
หลังจากนั้นเป็นต้นมา จำนวน zippo ที่ผมมีใช้งานอยู่ก็มาหยุดที่ 11 ตัวเป็นเวลานาน จนผมคิดว่าคงจะหยุดแต่เพียงเท่านี้
..............................................................
ในห้วงเวลาที่ผมทำงานอยู่ มักจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบอเมริกัน มาแวะจอดที่พัทยาอยู่เสมอ
ผมก็รู้เหมือนกันว่าบรรดาเรือเหล่านี้จะมี zippo ที่เป็นแบบเฉพาะของเรือแต่ละลำ และจะมีคนนำมาขายอยู่เรื่อย ๆ
เพียงแต่ว่าการที่จะซื้อหามาใช้นั้น จำเป็นต้องไปคอยเฝ้าซื้อตามชายหาดจากลูกเรือที่ขึ้นฝั่งหรือจากเรือเล็กที่คอยรับส่งลูกเรือเหล่านั้นอีกทีหนึ่ง
บางครั้งถึงกับต้องแย่งกันก็มี
หรือไม่ก็ต้องซื้อต่อกันมาเป็นทอด ๆ ราคาจึงขยับตามสูงขึ้น ๆ ทุกครั้งไป ตกหนักอยู่กับผู้ซื้อรายสุดท้าย
วิธีการซื้อขายแบบนี้ผมไม่นิยม
ดังนั้น ผมจึงไม่ดิ้นรนขวนขวายที่จะหา zippo ของเรือรบต่าง ๆ มาใช้งาน
ในปีพศ.2538 หรือ 2539 (ขออภัย จำไม่ค่อยได้อีกแล้ว) เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ U.S.S. NIMITZ พร้อมด้วยเรือพิฆาตและเรือคุ้มกัน จำนวน 5 ลำ ได้แวะมาจอดที่พัทยา และเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ขึ้นไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่อลังการของเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้
ตัวผมเองอยากจะขึ้นไปชมสักครั้งในชีวิต แต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากต้องทำงาน เพราะเค้าให้ขึ้นในเวลากลางวันเท่านั้น รู้สึกเสียดายเล็กน้อย
หลังจากที่เรือ NIMITZ มาจอดทอดสมออยู่ได้ 4-5 วัน ผมก็ได้รับโทรศัพท์ภายในจากผู้จัดการเรียกไปพบ
"มีอะไรครับพี่" ผมถาม
"เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกนะ ไปเที่ยวบนเรือ"
"ผมไปด้วยคนสิ" ผมกระเซ้าแกเล่น ๆ
"เฮ่ยย... อยู่ที่นี่ดีแล้ว เผื่อมีผู้ใหญ่โทร.มาก็บอกว่าพี่ไปพบลูกค้า ถ้ามีอะไรก็เซ็นแทนพี่ไปก่อน เดี๋ยวพี่กลับมาแล้วเซ็นตามให้อีกที"
"โอเค ได้ครับพี่" ผมตอบก่อนจะออกจากห้อง
แต่ก่อนที่ผมจะพ้นห้องออกไป แกถามผมว่า
"จะเอาอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่จะไปหาซื้อเสื้อกับหมวกบนเรือด้วย"
"เอาสิพี่ ผมฝากซื้อ zippo ตัวนึง" ผมบอกความต้องการไป
"ตัวใหญ่หรือตัวเล็กล่ะ" ผู้จัดการถาม
"เอามาอย่างละตัวก็ได้พี่" ผมบอก
"เฮ่ย เค้าให้ซื้อได้คนละตัวโว้ย ตัวละ 10 เหรียญ บนเรือรับแต่ดอลล่าร์ไม่รับเงินไทยด้วย"
"ถ้างั้นพี่รอผมแป๊บนึง เดี๋ยวผมเอาดอลล่าร์มาให้"
ผมออกจากห้องผู้จัดการ มุ่งตรงไปที่บูธ Exchange บอกกับพนักงานในนั้นว่า
"เอาเงินU.S มาให้พี่ก่อน 10 เหรียญ แล้วทำสลิปรอไว้ เดี๋ยวพี่มาเซ็นให้"
"ได้ครับพี่ นี่...10 เหรียญ"
ผมรับเงินจากน้องพนักงานมา แล้วมอบให้กับผู้จัดการ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น อยู่ระหว่าง1 ดอลล่าร์ : 25-26 บาท
เย็นวันนั้น ผู้จัดการกลับเข้ามาพร้อมกับวางกล่องพลาสติคสีดำขนาดกะทัดรัดลงบนโต๊ะทำงานของผม
"เอ้า เอาไป เป็นตัวเล็กนะ ตัวใหญ่หมดว่ะ มันบอกว่าหมดตั้งแต่ 2-3วันแรกแล้ว"
"ขอบคุณครับพี่ "
"แล้วมีอะไรที่พี่ต้องเซ็นตามหรือเปล่า อย่างอื่นเรียบร้อยดีมั้ย"
"ไม่มีอะไรหรอกพี่ ผมจัดการหมดแล้ว" ผมตอบ
"เออ ดี ดี " แกตบไหล่ผมทีนึง แล้วก็เดินเข้าห้องไป
ผมเปิดฝากล่องดู มองเห็น zippo high polish slim สลักรูปเรือบรรทุกเครื่องบิน U.S.S. NIMITZ CVN 68 มองจากมุมสูงลอยอยู่บนผืนน้ำ พร้อมกับมีโลโก้ประจำเรืออยู่เยื้องกับลำเรือเล็กน้อย
นี่คือ zippo ตัวที่ 12 ของผม และเป็น zippo ตัวสุดท้ายที่ผมซื้อ จากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผมไม่ได้ซื้อเพิ่มเติมอีกเลย
ทุกวันนี้ zippo ทั้ง 12 ตัวยังอยู่ครบถ้วน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้ผมได้ใช้ และยังคงใช้งานได้เป็นอย่างดีเสมอต้นเสมอปลายเหมือนกับวันแรกที่ถูกนำออกจากกล่อง
...................................................................
เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำของผม ซึ่งผมเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องมานั่งนึกย้อนอดีตลำดับเหตุการณ์เพื่อที่จะถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือให้ทุกท่านได้อ่านกัน หากไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็คือ
เมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ ผมนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ นึกอยู่ว่าจะเข้าไปเว็บไหนดี สายตาของผมเหลือบไปเห็น zippo ที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมเลยทดลอง search คำว่า zippo ซึ่งได้นำผมเข้ามายังเว็บแห่งนี้ ผมแปลกใจมากไม่คิดว่าจะมีผู้นิยมชื่นชอบ zippo ถึงขนาดจัดทำเว็บเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ผมได้ไล่อ่านทุก ๆ กระทู้ตั้งแต่กระทู้แรกเรื่อยไป วันละเล็กละน้อยจนครบทุกกระทู้ทุกหน้า
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นนักสะสม zippo แต่อย่างใด
เพราะการที่จะเป็นนักสะสม (collector) นั้น จะต้องมีความรอบรู้ในสิ่งนั้น ๆ อย่างลึกซึ้งมากพอสมควร สามารถอธิบายคุณลักษณะ ที่มาที่ไปของสิ่งเหล่านั้นได้ ต้องค้นคว้าสั่งสมข้อมูลจากอดีตจนถึงปัจจุบันและสามารถถ่ายทอดให้คนทั่วไปรับรู้รับทราบได้
ผมไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย
เท่าที่ผมเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ก็แค่เป็นผู้ที่ชื่นชมนิยมชมชอบในตัวไฟแช็ก zippo เท่านั้น จะชอบด้วยเหตุผลใดก็อธิบายได้ยากเหมือนกัน สรุปง่าย ๆ ก็คือ ชอบเป็นการส่วนตัว เท่านั้นเอง
มาถึงตอนนี้ เมื่อผมได้ย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่ผมเขียนไว้แต่ต้น พบว่ายังขาดรายละเอียดปลีกย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ้าง หากมีโอกาสก็จะรวบรวมมาเสนอต่อไปภายหน้า
ชื่อเรียกของ zippo แต่ละรุ่นแต่ละแบบที่ปรากฏอยู่ในข้อเขียนที่ผ่านมาของผม ก็ได้รับทราบรับรู้มาจากเว็บแห่งนี้เอง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่วันผมไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่า zippo แต่ละแบบนั้นมีชื่อเรียกอย่างไร ในส่วนของเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกับวันเวลา จำนวนตัวเลข อาจจะมีการคลาดเคลื่อนไปบ้าง ขอท่านอย่าได้ยึดถือเป็นส่วนสำคัญเลยครับ
อีกประเด็นหนึ่งที่ผมต้องขอชี้แจงบอกกล่าวให้ท่านได้ทราบกันก็คือ ผมไม่มีเจตนาที่จะมาคุยโม้โอ้อวดว่าผมมี zippo อยู่มากน้อยกี่ตัว ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านในเว็บแห่งนี้คงจะมี zippo มากกว่าผม และเป็นรุ่นที่ดีกว่าที่ผมมีอยู่ด้วย
ทุกครั้งที่ผมเข้ามายังเว็บนี้ ที่ทำเป็นประจำก็คือการ click เข้าไปดู zippo รุ่นต่าง ๆ ในแคตตาล็อก
อะไรมันจะมากมายขนาดนั้น สวยงามขนาดนั้น
ตัวนั้นก็ดี ตัวนี้ก็สวย ตัวนู้นยิ่งสวยหนักเข้าไปอีก
ลองจดรุ่นที่สวยถูกใจลงใส่กระดาษดูคร่าว ๆ ปาเข้าไปเกือบ 2 หน้ากระดาษ A 4 แล้ว
มันเกิดอะไรขึ้นอีก ???
นี่ถึงเวลาที่ผมจะต้องตัดสินใจอีกแล้วหรือ ???
ใครก็ได้ช่วยผมตัดสินใจหน่อยเถอะครับ
|