เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

ทำไมปีหรือเดือนที่ผลิตของตัวถังด้านในไม่ตรงกับที่ก้นตัวถังด้านนอก?

สำหรับไฟแช็กซิปโป้รุ่นใหม่ๆ จะมีการระบุเดือนและปีที่ผลิตบนตัวถังทั้งด้านในและด้านนอก หากดูตามกระบวนการผลิตแล้ว แผนกที่ทำตัวถังด้านนอกและแผนกที่ทำตัวถังด้านในนั้นอยู่คนละส่วนกัน ตัวถังด้านในของไฟแช็กซิปโป้ขนาดปกติจะเหมือนกันหมด ดังนั้นทางโรงงานจึงสามารถผลิตสต๊อกล่วงหน้าไว้ได้เป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาจับคู่ใส่กันกับตัวถังด้านนอกที่ต้องเสียเวลานำไปผ่านการทำสี แกะลาย หรือพิมพ์ลวดลายก่อน หลังจากออกมาเป็นตัวแล้ว จึงเป็นไปได้ที่เวลานำมาจับคู่กันแล้วเดือนและปีที่ผลิตอาจจะไม่ตรงกันเลยซะทีเดียว

ปกติแล้วหากนับจำนวนเดือนที่ผลิตระหว่างตัวในกับตัวนอกแล้วห่างกันไม่เกิน 12 เดือน ก็ถือว่าสามารถยอมรับได้ (ในบางครั้งผมก็เคยเจอแบบที่ห่างกันถึง 3-4 ปี ขนาดสั่งของใหม่จากเมืองนอกทั้งๆ ที่มีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ แต่ก็ไม่บ่อยนัก)  แต่แน่นอนทุกคนย่อมต้องการเดือนและปีผลิตที่ตรงกัน

บานพับซิปโป้ของแท้มันต้องอยู่ข้างไหน?
เวลาหันด้านหน้าเข้าหาตัว (บานพับอยู่ด้านซ้าย) แต่โลโก้ที่ก้นคว่ำผิดปกติไหม?

หากถามว่าบานพันมันควรจะอยู่ด้านไหนเมื่อยึดจากโลโก้ประทับที่ก้นไฟแช็กระหว่างด้านตัว Z กับด้านตัว O หรือถามอีกอย่างหนึ่งว่า โลโก้ Zippo  เวลาเราหันด้านที่มีลายหรือด้านหน้าเข้าหาตัวเราแล้ว บานพับอยู่ด้านซ้าย โลโก้ควรจะตั้งขึ้น หรือคว่ำกันแน่

ด้านหน้าของซิปโป้คือด้านที่มีบานพับอยู่ด้านซ้าย (ปกติจะมีลวดลายเฉพาะด้านนี้) ส่วนโลโก้ที่พิมพ์ที่ก้นจะกลับหัวหรือหันหัวขึ้นมาอ่านง่ายๆ ตามปกติ ทั้งสองแบบก็เป็นของแท้เหมือนกัน ถ้าบานพับอยู่ด้านตัว Z ก็แปลว่าโลโก้ของตัวนั้นหันขึ้นตามปกติ แต่ถ้าบานพับอยู่ด้านตัว O ก็แปลว่าโลโก้ของตัวนั้นกลับหัว แต่ก็ไม่ถือว่าผิดหรือเสียหายอะไร

เนื่องจากกระบวนการผลิตนั้น ทางโรงงานได้แยกออกเป็นหลายสายการผลิต การบากร่องบานพับนั้นจะทำหลังจากปั๊มโลโก้ที่ก้น ซึ่งถ้าหากฝ่ายบากร่องสำหรับใส่บานพับไม่ได้ใส่ใจมากนักว่าร่องของบานพับว่าจะต้องอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวาของโลโก้ เมื่อไปถึงแผนกเชื่อมบานพับเข้ากับตัวถังซึ่งต้องยึดด้านที่มีร่องบานพับเป็นหลัก จึงทำให้ไฟแช็กมีโลโก้สลับกันได้ทั้งสองแบบ แต่ก็ไม่เป็นผลกับคุณภาพ และการใช้งานแน่นอนครับ

ดูคลิปวีดีโอกระบวนการผลิตด้านล่างนี้ในนาทีที่ 1:02 ก็จะสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ

ของแท้และของปลอมต่างกันอย่างไร?

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงค์ด้านล่างนี้ครับ

http://www.zippadeedoo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=378879&Ntype=2

ตัวถังด้านในของแบบที่มีราคาแพง และแบบที่มีราคาถูก แตกต่างกันหรือไม่?

เหมือนกันครับไม่ว่าจะราคาถูกหรือว่าจะแพงเป็นหมื่นเป็นแสน ตัวถังด้านในในจะทำมาจากวัสดุเดียวกันทั้งหมด แตกต่างกันเพียงแค่ถ้าตัวนอกเป็นสีทอง ตัวถังด้านในก็จะเป็นสีทองด้วย (ยกเว้นบางรุ่นเช่นรุ่น Antique Brass)

ตัวถังด้านในนอกจากจะทำจากวัสดุเดียวกันแล้วแทบจะทั้งหมดยังเป็นแบบเดียวกันด้วยครับ ยกเว้นบางรุ่นที่ตั้งใจทำให้แตกต่างเป็นพิเศษเช่นรุ่น 1941 Replica รุ่นนี้จะแตกต่างจากรุ่นทั่วๆ ไปคือมีรูระบายอากาศด้านละ 7 รู (ปกติมีด้านละ 8 รู) และตาไก่ที่เฟืองล้อจุดประกายก็จะเป็นแบบที่สามารถมองทะลุได้อีกด้วย ซึ่งรุ่นทั่วๆ ไปจะเป็นแบบตัน

ตัวถังทำมาจากอะไร?

วัสดุที่นำมาทำตัวถังของรุ่นปกติทั่วๆไปจะทำมาจากทองเหลืองเหมือนกันทั้งหมด แล้วนำมาชุบสี ชุบโครเมียม เคลือบสี ฯลฯ ให้มีสีและพื้นผิวแตกต่างกันออกไป

ยกเว้นรุ่นที่ทำมาจากเงิน ทองแดง ไททาเนียมหรือทองคำ จะมีการระบุชนิดของโลหะที่นำมาทำตัวถังไว้ที่ก้นด้วยเช่น Sterling Silver 925, Copper, Solid Titanium หรือ Solid Gold 14K, 18K

ส่วนตัวถังด้านในจะใช้วัสดุโลหะผสมเหล็กมาทำ ดังนั้นหากลองนำแม่เหล็กมาวางที่ตัวถังด้านใน แม่เหล็กจะดูดติดกับตัวถังด้านในด้วย ซึ่งตามปกติแล้ว ตัวถังด้านในของรุ่นทั่วๆไปจะเป็นสีเงิน แต่ถ้ารุ่นที่ตัวถังด้านนอกเป็นสีทอง ตัวถังด้านในก็จะเป็นสีทองด้วย แต่สีทองของตัวถังด้านในนั้นจะชุบสีทองเพียงบางๆเท่านั้น หากนำไปใช้งานสักพักและเกิดการถลอกหรือว่าขัดออกจะกลายเป็นสีเงิน

ตัวถังด้านนอกรุ่นที่เป็นทองเหลืองจะดำง่ายเหมือนทองเหลืองทั่วๆไปหรือเปล่า?

ตัวถังที่เป็นทองเหลือง จะมีการเคลือบสารบางๆเพื่อไม่ให้ดำหรือเปลี่ยนสีได้ง่ายหากยังไม่ได้ใช้งาน แต่ถ้าหากได้ใช้งานแล้วสารที่เคลือบไว้จะค่อยๆจางลงและหมดไปในที่สุดตามการใช้งาน แล้วตัวถังก็จะค่อยๆเปลี่ยนสีตามธรรมชาติของทองเหลือง

หากต้องการให้กลับมาเงางามอีกครั้ง ก็เพียงใช้ Brasso, Wenol หรือแบบไทยๆก็มะขามเปียก มาขัดด้วยผ้านุ่มๆ ก็จะทำให้ความเงางามกลับคืนมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องขัดอยู่เรื่อยๆ หากต้องการให้เงางามอยู่ตลอด (ห้ามนำใช้กระดาษทรายหรือแปรงทองเหลืองมาขัดเป็นอันขาดนะครับ)

ซื้อซิปโป้มาใหม่จำเป็นต้องมีสติ๊กเกอร์สีส้มไหม ?

ปกติซิปโป้ทุกอันจะมีสติ๊กเกอร์สีส้มติดอยู่ด้านหลัง (Safety Sticker) ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนจะถือว่าค่อนข้างสำคัญ แต่เดี๋ยวนี้เนื่องจากของที่นำเข้ามาจากตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทยจากอเมริกาต้องผ่านพิธีการทางศุลกากรทั้งทางสิงคโปร์และประเทศไทย จึงไม่อาจติดสติ๊กเกอร์ได้ รวมทั้งของที่นำเข้ามาจากประเทญี่ปุ่นด้วย

ส่วนที่เห็นว่าบางแหล่งที่ขายซิปโป้แล้วมีสติ๊กเกอร์สีส้มติดมาด้านหลังด้วยนั้น ก็คือการนำเข้ามาเองโดยไม่ผ่านตัวแทนจำหน่าย

ทำไมเสียงไม่ ปิ๊ง? หรือจะแต่งเสียงได้ไหม?

อยากจะทำความเข้าใจใหม่สำหรับทุกๆท่านไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นใช้งานหรือสะสมมานานแล้วไว้ก่อนว่า เรื่องเสียงของการเปิดปิดนั้นก็เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของไฟแช็กซิปโป้เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องเสียงก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของซิปโป้ เรื่องที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของการที่สามารถป้องกันลมได้ดีมากกว่า

จึงทำให้หลายๆคนยังยึดติดกับเรื่องเสียง และนำไปดัดแปลงจนทำให้เกิดความเสียหายกับไฟแช็ก ซึ่งอันที่จริงแล้วสาเหตุซึ่งทำให้ซิปโป้แต่ละตัวมีเสียงที่แตกต่างกันนั้นอาจเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่างเช่น

1. วัสดุที่เป็นส่วนของตัวถัง ถ้าเป็นแบบที่เป็นโลหะล้วนๆ มักจะมีเสียงใสกว่าแบบที่ มีอะไรมาแปะหรือติดอยู่บนตัวถัง

2. ความฝืดของบานพับ เนื่องจากเป็นของใหม่ บางทีบานพับยังแน่นอยู่ ทำให้ฝาไม่สามารถเด้งออกได้เร็วเต็มที่ แล้วถ้าหากเป็นแบบ Matte ซึ่งแบบนี้จะเคลือบสีภายนอกทั้งหมด ไม่เว้นแม่แต่บานพับ (ยกเว้นรุ่นที่ผลิตออกมาใหม่ๆ จะมีการเว้นการเคลือบสีที่ก้น เพื่อแก้ปัญหาการดูปีที่ผลิตยาก) สีที่ติดอยู่ตามร่องบานพับจึงเป็นสาเหตุทำให้บานพับฝืดได้

3. แบบสลิม ปกติแบบสลิมจะมีเสียงที่ไม่ค่อยดังอยู่แล้ว เนื่องจากทุกอย่างเล็กกว่าแบบปกติ โดยเฉพาะสปริงลูกเบี้ยว และ ลูกเบี้ยวที่มีขนาดเล็ก ทำให้มีแรงดีดเวลาเปิดฝาออกน้อย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียงไม่ดังเท่าแบบมาตรฐาน

4. บานพับบน ที่อยู่ด้านในฝาไม่ตรง จริงๆแล้วผมคิดว่าการแต่งเสียงของซิปโป้น่าจะทำได้ง่ายแค่เพียง ดัดส่วนนี้เท่านั้น หากลองดัดเข้าดัดออกแล้วสังเกตความแตกต่างของเสียงดู จะเห็นความแตกต่างของเสียงที่เปลี่ยนไป ลองค่อยๆ ดัดทีละน้อยๆ นะครับ

5. สำหรับซิปโป้เก่าๆ สามารถสันนิษฐานได้อีกว่าเกิดจากการล้าของสปริงลูกเบี้ยว ซึ่งการที่เอาตะไบไปแต่งที่ลูกเบี้ยวที่คนไทยส่วนใหญ่ทำอยู่นั้นอาจเป็นเพราะ ต้องการทำให้ลูกเบี้ยวเล็กลงและเบาขึ้นทำให้เด้งได้ดี

ซิปโป้ใหม่ๆบางอันก็อาจมีปัญหาสปริงลูกเบี้ยวไม่มีแรงได้เหมือนกัน โอกาสที่จะเจอก็มีประมาณ 3%-5% (อันนี้จากประสบการณ์ของผมเองที่เคยสั่งไฟแช็กมาทำไฟแช็กของชมรมร้อยกว่าอัน จะมีแบบนี้มา 3-4 อัน)

หากสาเหตุของการที่เสียงไม่ดังปิ๊งๆ มาจาก ข้อ 2 วิธีแก้ก็คือใช้ไปเรื่อยๆ พอมันเริ่มหายฝืดเสียงมันก็จะดีเอง เพราะแบบนี้ไม่ได้มีอะไรมาติดบนตัวถัง แต่เสียงอาจจะไม่ไพเราะเท่าแบบที่ไม่ได้เคลือบสี

แต่ถ้าสาเหตุมาจากข้อ 4 นั้นก็สามารถแก้ไขได้ง่ายนิดเดียว คือการดัดบานพับบนด้านใน ถ้าไม่รู้ว่าเป็นส่วนไหน ให้เข้าไปดูที่นี่ครับ

http://www.zippadeedoo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=241538&Ntype=4

ส่วนถ้าเกิดจากข้อ 5 นั้น ความจริงแล้วผมไม่อยากให้ไปตะไบลูกเบี้ยวออกหรอกครับ เสียของเปล่าๆ หากผิดพลาดอะไรขึ้นมาจะไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีก อยากให้ลองแก้ไขด้วยการทำความสะอาด และหยอดน้ำมันที่ลูกเบี้ยวดูก่อนครับ อาจจะช่วยได้ เพราะว่าส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดเสียงมีแค่ลูกเบี้ยว สปริงลูกเบี้ยว และบานพับบนด้านในแค่นั้นเอง ลองทำดูนะครับ

ลายที่พิมพ์จะลอกไหม ทำไมลายหลุดลอกง่ายจัง ถ้าหลุดแล้วจะทำอย่างไรดี ?

เป็นคำถามที่พบบ่อยมาก ผมขอตอบตรงๆเลยว่าต้องมีวันลอกแน่นอนหากนำไปใช้งาน แต่จะช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของตัวคุณเอง 

ลายสกรีนแบบใหม่ๆ บนไฟแช็กที่มีลักษณะมันวาว หรือลื่นๆ เช่น High Polish Chrome/Brass, Satin Chrome, Black Ice, Sapphire ต้องระวังก็มากๆหน่อยนะครับ เพราะสีหรือลายที่พิมพ์บนตัวไฟแช็กจะหลุดออกง่ายมาก ไม่เหมือนของเก่าๆ ที่มีการทำร่องก่อนที่จะสกรีนสี ถึงแม้สีหลุดลอกไป แต่ลายก็ยังหลงเหลืออยู่

แต่ถ้าหากเป็นแบบพิมพ์ลายบนพื้นผิวแบบ Matte (เคลือบสี) ลายที่พิมพ์จะอยู่คงทนกว่าแบบต่างที่กล่าวมาข้างต้น

ผมก็คิดเหมือนกันนะว่า ผู้ผลิตซิปโป้ทำแบบนี้ออกมาก็เหมือนกับการฆ่าตัวเอง เพราะแม้กระทั่งผมเองก็ยังเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวผมเอง จึงอยากแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงไฟแช็กที่มีลักษณะดังกล่าวข้างต้น หากต้องการซื้อไปใช้งานจริงๆ ควรใช้งานอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเวลาเติมน้ำมันใหม่ๆ ห้ามนำด้านที่มีลายวางคว่ำหน้าลงเป็นอันขาด เพราะน้ำมันที่ซึมออกมาจะกัดและทำให้สีหลุดร่อนออกมาเป็นแผ่นๆได้ง่ายๆ

ซื้อของใหม่มาแต่ฝาโยกผิดปกติไหม?

ถ้าของใหม่อาจจะมีการโยกนิดหน่อยถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ บางอันก็โยกน้อยบางอันก็โยกเยอะหน่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันหลวมหรือโยกจากการใช้งานมาก่อนนะครับ ส่วนใหญ่รุ่นที่เป็นสีเงินหรือสีทองจะโยกหรือหลวมมากกว่ารุ่นชุบสี (Matte) เพราะว่ารุ่นชุบสีจะมีสีเคลือบอยู่ที่บานพับด้วย ใช้งานใหม่ๆบานทีอาจจะฝืดด้วยซ้ำ แต่พอใช้ไปซักพักก็จะลื่นเป็นปกติเอง

รอยบุ๋มๆ ด้านข้างใกล้ๆ บานพับ เป็นตำหนิหรือไม่?

หลายคนอาจตกใจว่าทำไมไฟแช็กซิปโป้ที่ซื้อมาใหม่กลับมีรอยบุบใกล้ๆ บานพับถึง 2 จุด รอยดังกล่าวไม่ใช่รอยบุบหรือตำหนิที่ผิดปกตินะครับ มันคือรอยเชื่อมบานพับเข้ากับตัวถัง หรือเรียกว่ารอยอาร์ก ซึ่งไฟแช็กซิปโป้ทุกตัวจะมีรอยดังกล่าวนี้อยู่ด้วยเป็นปกติครับ

คราบที่คล้ายๆสนิมด้านในฝาและตัวถังมันคืออะไร

เนื่องจากซิปโป้ทำมาจากทองเหลือง และเวลาที่ชุบหรือเคลือบสีจะไม่ได้ทำที่ด้านในด้วย คราบที่ดูน่าเกลียดเหมือนทองเหลืองเก่าๆเมื่อดูจากด้านในจึงเป็นเหมือนกันแทบทุกตัว แต่นั่นคือสีธรรมชาติของทองเหลืองครับ

เพราะเป็นส่วนที่ไม่ได้โชว์จึงไม่ต้องทำสีให้สวยงามเหมือนด้านนอก แต่คราบดังกล่าวไม่ใช่คราบสนิมแน่นอน สบายใจได้ครับ

ก้อนเรยอน VS สำลีต่างกันอย่างไร?

บางคนคิดว่าเอาสำลีธรรมดามาเปลี่ยนแทนก้อนเรยอนที่มีมาเดิมๆกับตัวไฟแช็กซิปโป้แล้วใช้แทนกันได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ

สำลีทำมาจากฝ้าย ส่วนเรยอนทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ชนิดหนึ่ง ทั้งสองอย่างมีคุณสมบัติในการดูดซับแตกต่างกัน สำลีเมื่อโดนน้ำหรือของเหลวจะไม่มีการคืนตัวหรือคืนตัวน้อยมาก ยิ่งใส่ในไฟแช็กมากเท่าไหร่จะยิ่งทำให้แน่นจนทำให้พื้นที่ที่จะเก็บกักน้ำมันลดลง อันเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าน้ำมันหมดเร็ว แต่เรยอนจะมีการคืนตัวเมื่อถูกน้ำหรือของเหลวมากกว่า จึงมีพื้นที่ในการเก็บกักน้ำมันที่เหมาะสม

ดังนั้นหากไม่จำเป็นอย่านำสำลีมาใช้แทนเป็นอันขาด แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ ก็อย่าอัดสำลีให้แน่นจนเกินไป

การรับประกัน

ไฟแช็กซิปโป้ของแท้ ไม่จำเป็นต้องมีใบรับประกันผู้ผลิตก็รับประกันให้แบบLifetime Guarantee ตลอดชีวิตอยู่แล้ว  โดยไม่มีกำหนดเวลา ไม่ว่าจะเพิ่งซื้อเมื่อวานนี้หรือจะใช้มาแล้วเป็นสิบ ๆ ปี ก็ส่งซ่อมได้ หากการชำรุดเสียหายนั้นอยู่ในเงื่อนไข โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในการซ่อม ซึ่งถือเป็นข้อดีอันโดดเด่นอย่างหนึ่งของซิปโป้

 ดูรายละเอียดการส่งไปซ่อมที่อเมริกาเพิ่มเติมได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ

http://www.zippadeedoo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=372436&Ntype=3

Replica หมายถึงอะไร?

แบบ Replica คือแบบที่ทำย้อนยุค เลียนแบบของเก่าที่เลิกผลิตและหายาก เพื่อสนองความต้องการของคนที่ชอบแบบเก่าๆ แต่ไม่สามารถสู้ราคาอันแพงลิบลิ่วได้

แบบ Replica ที่ผลิตออกมาทั้งหมดตอนนี้น่าจะมีอยู่ประมาณ 5 แบบ ทุกแบบก้นจะเรียบแบบ (ก้นตัน)

รุ่น 1932 และ 1933 Replica ที่มีลักษณะเหลี่ยมทั้งตัว สูงกว่ารุ่นปกติ และมีบานพับนอกแบบหลอกๆ 5 ข้อ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นแทบไม่มีอะไรแตกต่างกัน แต่ที่ก้นจะพิมพ์ว่า 1932 และ 1933 Replica มีทั้ง First Release และ Second Release ออกมาเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน

รุ่น 1935 Replica รุ่นนี้เพิ่งออกมาเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ลักษณะจะเป็นแบบเหลี่ยมๆ แต่จะเตี้ยกว่า 2 รุ่นข้างบน จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือมีบานพับแบบ 3 ข้อ และเป็นบานพับจริงที่อยู่ด้านนอก ที่ญี่ปุ่นทรงนี้มีแบบให้เลือกมากมาย ทั้งลายเลียนแบบของเก่า และลายสมัยใหม่ แต่ของอเมริกาตอนนี้มีแค่แบบเดียว

รุ่น Vintage ย้อนยุคประมาณปี 1937 ออกมานานแล้ว และยังผลิตออกมาอยู่เรื่อยๆ รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ฝาบนที่เรียบตรง แต่ขอบและมุมจะมนๆ ไม่เป็นเหลี่ยมเหมือน 3 รุ่นด้านบน  รหัสรุ่นคือ 230, 230.25, 240 และ 260 อยู่ในหมวด Classic & Slim

รุ่น 1941 Replica รูปทรงจะดูอ้วนๆหน่อย ด้านข้างทั้ง 2 ข้างเรียบตรง แต่ฝาโค้งมน บานพับมีเอกลักษณ์คือมีแค่ 4 ข้อ รายละเอียดของตัวในก็ทำเลียนแบบของเก่าด้วย โดยตาไก่ยึดเฟืองล้อจุดประกายจะเป็นแบบรู มองทะลุไปอีกด้านนึงได้ แถมรูระบายอากาศด้านในยังมีน้อยกว่ารุ่นปกติด้านละ 1 รู (ปกติมีด้านละ 8 รู รูซ้ายสุดของแถวล่างจะหายไป) และรุ่นนี้เป็นรุ่นฝาสามารถเปิดออกได้สุดถึง 180 องศาเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่ารุ่นปกติทั่วไปประมาณ 10-15 องศา
อยู่ในหมวด Classic & Slim รหัส 1941, 1941R และ 24096